0
0
Read Time:5 Minute, 27 Second
หน้าฝนแบบนี้จะทำอะไรก็ลำบาก จะออกจากบ้าน หรือจัดงานสำคัญทั้งที ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจเลยสักวัน ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า “เราจะทำยังไงให้ฝนหยุดตกได้บ้าง” ได้ยินแบบนี้แล้วอาจจะมีความสงสัยว่าเราจะสามารถฝืนธรรมชาติ สั่งให้ฝนหยุดได้จริงหรอ!?
แต่น่าแปลกใจ ที่ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างก็มีความเชื่อในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ฝนหยุด และมากไปกว่านั้น ยังมีหลายประเทศที่พยายามศึกษาการเกิดฝนอย่างจริงจังด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ และเริ่มปฏิบัติการหยุดฝนก่อนวันงานสำคัญของประเทศได้อีกด้วย
รู้จักกับ “Cloud Seeding” วิธีทำให้ฝนตก และหยุดฝนได้ในเวลาเดียวกัน
หนึ่งในวิธีทำให้เกิดฝนที่ทำกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก คือการเพาะก้อนเมฆ ‘Cloud Seeding’ ให้เกิดฝนตกในบริเวณที่ต้องการ หรือที่เราเรียกว่าการทำฝนเทียมนั่นแหละ
เหตุผลที่เรียกว่า Cloud Seeding เพราะเป็นการใส่สารเคมีเข้าไปในก้อนเมฆ เหมือนการให้อาหารยังไงอย่างงั้น โดยสารที่ใส่ลงไปประกอบไปด้วย silver iodide, salt และ dry ice สารเคมีเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็น condensation nuclei ควบแน่นกับโมเลกุลน้ำ จนเมื่อ nuclei เหล่านี้มีปริมาณมากพอ ก็จะตกลงมาเป็นฝน
แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะจะต้องมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งทิศทางลม อุณหภูมิ ค่าความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งบางครั้ง ฝนก็ไม่ตกลงมาด้วยซ้ำ
แล้วจะหยุดฝนได้อย่างไร..
ว่ากันตามตรงก็คงต้องบอกว่าเราไม่สามารถห้ามให้ฝนตกลงมาได้ แต่สามารถเร่งให้ฝนตกก่อนเวลาสำคัญ หรือเร่งให้ฝนตกในพื้นที่อื่น ๆ
จึงเรียกได้ว่า ‘Cloud Seeding’ สามารถทำให้ฝนตก และไม่ตกได้ (ในทางอ้อม) นั่นเอง
เพราะมีคนใช้ Cloud Seeding เพื่อเลี่ยงฝนตกในวันสำคัญมาแล้ว! ประเทศจีนได้ใช้วิธีนี้ในการทำให้ฝนไม่ตกในการแข่งขันโอลิมปิก ในปี พ.ศ.2551 ด้วยการให้ผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์จากสถิติฝนตกในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ว่ามีโอกาสที่ฝนจะตกในวันงานหรือไม่ ผลปรากฎว่ามีโอกาสมากถึง 50%
ในช่วงเวลาก่อนถึงวันทำพิธีเปิด และพิธีปิดของงาน เจ้าหน้าที่จะทำการยิงจรวดสารเคมีเข้าไปที่ก้อนเมฆเหนือกรุงปักกิ่ง เพื่อ ‘เร่งให้เกิดฝนตก’ และเป็นการรีดก้อนเมฆให้กลั่นตัวเป็นเม็ดฝนให้หมดจากน่านฟ้ากรุงปักกิ่ง เพื่อที่จะได้ไม่มีตกในวันพิธีนั่นเอง
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือในวันสำคัญนั้นเอง ไม่เกิดฝนตกจริง ๆ เพราะฝนตกลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว
วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าเราสามารถหยุดฝนได้ด้วยการเร่งให้ฝนตกลงมาเร็วขึ้น แต่นอกเหนือจากวิทยาศาสตร์ ยังมีตำนานความเชื่อในการหยุดฝนอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะพื้นที่ไหนในโลก ก็มักจะมีความเชื่อ และวิธีการไล่ฝนที่แตกต่างกันตามลักษณะความเป็นอยู่และวัฒนธรรม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
‘ปักตะไคร้’ โดยสาวพรหมจรรย์ ตำนานความเชื่อการทำให้ฝนหยุดตกจากฝั่งไทย
หนึ่งในวิธีที่คนรุ่นก่อนมักจะชอบทำเป็นประจำ เมื่อถึงวันสำคัญไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง งานบุญ ที่ไม่อยากให้เกิดฝนตก ก็จะตามหาสาวพรหมจรรย์ หรือสาวบริสุทธิ์มาเพื่อเป็นคนปักตะไคร้ลงดิน โดยเชื่อว่าหากเป็นสาวบริสุทธิ์จริง ก็จะสามารถห้ามฝนให้หยุดตกได้
นอกจากนี้ยังมี ‘คาถาไล่ฝน’ อีกด้วย
-
คาถาห้ามฝนโดยสมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ขรัวอีโต้
สิทธิ พุทธะ จะ อุตตะมะ สิทธิ ธัมมา เทวะ สังฆา สัพพะ มะหาวิชาคาถา สิทธิสาวัง พุทธัง ประสิทธิเม ธัมมัง ประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม สมเด็กพระศรีสมโพธิ์ราชครู ประสิทธิเม พระขรัวอีโอ้ ประสิทธิเม
วิธีสวดจะเริ่มด้วยการตั้งนะโม 3 จบ และตามด้วยไตรสรณคมน์ (การถึงรัตนะ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) และสวดคาถาห้ามฝนตามวันนั้น ๆ ดังนี้
-
วันอาทิตย์ สวด 6 จบ
-
วันจันทร์ สวด 15 จบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
-
วันอังคาร สวด 8 จบ
-
วันพุธกลางวัน สวด 17 จบ
-
วันพุธกลางคืน สวด 12 จบ
-
วันพฤหัสบดี สวด 19 จบ
-
วันศุกร์ สวด 21 จบ
-
วันเสาร์ สวด 10 จบ
ทั้งนี้ การสวดคาถาห้ามฝนนี้ จะต้องสวดสะสมหลายวันจนกว่าจะถึงวันนั้น เช่น หากต้องการห้ามฝนในวันศุกร์ จะต้องสวดก่อนถึงวันศุกร์ 7 วัน
-
คาถาห้ามลมพายุ โดยหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท
นะ หันตะวา เตสัง อุปัททะเว (ออกเสียงหนักแน่นตรง ‘อุปัททะเว’)
วิธีสวดจะเริ่มด้วยการตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท และในขณะที่สวดให้พัดหรือโบกผ้ายันต์ ในลักษณะการโบกให้หนีไป
ความเชื่อการหยุดฝนของต่างประเทศ เป็นอย่างไร?
-
ตุ๊กตาไล่ฝนจากญี่ปุ่น
เรามักจะเห็นตุ๊กตาไล่ฝนสีขาวหัวกลมจากอนิเมะหรือหนังญี่ปุ่นกันมาตลอด ตุ๊กตาตัวนี้มีชื่อว่า ‘เทะรุเทะรุโบซุ’ ซึ่งเทะรุเทะรุ แปลว่า อากาศดี แจ่มใส และโบซุ แปลว่า หัวโล้น
ตุ๊กตาไล่ฝนตัวนี้ หากแขวนเอาหัวไว้ข้างบนคือการขอให้ฝนหยุด แต่หากแขวนห้อยหัวคือการขอให้ฝนตก
-
พิธีGicheongje จากเกาหลี
คือการขอพรให้อากาศดี จากเทพเจ้าทั้ง 4 ทิศ โดยเชื่อว่าจะสามารถหยุดพายุฝนได้ ในพิธีจะมีการบูชาเครื่องหอม หัวหมู เหล้าองุ่นขาว ตรงประตูเมืองทั้ง 4 ทิศของกรุงโซล และประตูโบราณตามจังหวัดต่าง ๆ
-
เผาหุ่นแม่มด จากสาธารณรัฐเช็ก
เหตุผลที่ต้องเป็น ‘หุ่นแม่มด’ เพราะพิธีกรรมนี้มีมาตั้งแต่สมัยล่าแม่มด หรือเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว และเชื่อว่าแม่มดทำให้สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกนานเป็นสัปดาห์ ชาวบ้านจึงพากันจับแม่มดมาจุดไฟเผา เพื่อให้ฝนหยุดตกนั่นเอง และยังมีการสืบทอดมาจนปัจจุบัน โดยใช้หุ่นแม่มดเป็นตัวแทนของแม่มด พิธีกรรมการเผานี้จัดขึ้นปีละครั้งตอนสิ้นเดือนเมษายน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
สรุปได้ว่า
ทั่วโลกต่างต้องมีความต้องการให้ฝนหยุดตกในบางครั้ง เพราะการเกิดฝนตกในระยะเวลานาน ก็นำมาซึ่งภัยพิบัติและยังเป็นความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์อีกด้วย จึงเกิดเป็นพิธีต่าง ๆ ขึ้นมา เผื่อว่าจะมีความหวังในการขอให้ฝนหยุดตกลงไปได้บ้าง แม้จะไม่เต็ม 100% ก็ตาม ในทางวิทยาศาสตร์ก็เช่นกัน ถึงแม้ Cloud Seeding จะเป็นทางเลือกที่ดูน่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล และสามารถยับยั้งได้เพียงฝนธรรมดาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฤดูฝนแบบนี้ อย่าลืมดูแลสุขภาพ พกร่มอยู่เสมอ และคอยดูพยากรณ์อากาศในวันสำคัญอยู่เสมอ ถึงแม้จะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ 100% แต่ก็ยังมีโอกาสรอดจากการตากฝนอยู่นะ
ขอบคุณข้อมูล: Research Matters, CNN, Silpa.mag, IKIDANE, BBC, Korea Times, Prakumkrong, space.co
Happy
0 %
Sad
0 %
Excited
0 %
Sleepy
0 %
Angry
0 %
Surprise
0 %